วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตอนที่ ๑๑ พระนเรศวรทรงสร้างสถูปและปูนบำเหน็จทหาร

โคลง๔
๏ ราชาชัเยศอื้น                      โองการ
รังสฤษฏ์พระสถูปสถาน       ทึ่มล้าง
ขุนเข็ญคู่รำบาญ                     สวมศพ ไว้แฮ
หนตระพังตรุสร้าง                   สืบหล้าแหล่งเฉลิม
(ร่าย)       เสร็จเริ่มรณแล้วไสร้ ธให้เจ้าเมืองมล่วน ถ้วนทั้งคชหมอควาญ จำทูลสารเสียรงค์ องค์อุปราชเอารส ขาดคชลาญชีพ รีบเร็วยาตรอย่าหึง ไปแจ้งอึงกฤษฎาการ แด่มหิบาลผู้เผ้า เจ้าแผ่นภพหงสา แล้วธให้คลาพยุหทัพ กลับคืนครองครอบเหล้า เถลิงอยุธยเย็นเกล้า ทั่วทวยสยาม สิ้นนา
โคลง๔
๏ กรุงรามฤทธิ์เฟื่องฟ้า         ฟู่ภพ
ตระบัดบพิตรปรารภ            ชอบพ้น
เจ้ารามราฆพ                         คงคู่ เสด็จนา
ตำแหน่งกลางช้างต้น            ต่อด้วยดัสกร
๏ กุญชรวรพ่าห์ท้าย              เถลิงงาน
องค์อนุชนฤบาล                   บั่นเสี้ยน
ขุนศรีคชคงชาญ                    ชเยศ ยิ่งนา
สนองบาทยาตรยุทธ์เที้ยน    เพื่อนไท้ในรณ
๏ สองผจญอริราชด้วย          โดยเสด็จ
คุณขอบตอบบำเหน็จ           ท่านให้
ครบเครื่องอุปโภคเสร็จ        ทุกสิ่ง สรรพแฮ
เงินและทองทาสใช้               อีกทั้งทวยเชลย
๏ แล้วเผยพจนารถชั้น           บรรหาร
ยกชอบกอบบำนาญ              ที่ม้วย
นายมหานุภาพควาญ             กลางคช หนี่งนา
หมื่นภักดีศวรด้วย                   ศึกสู้เสียตน
๏ นบัดดลดำรัสให้                   ปูนยศ
ทรัพย์สิ่งศรีสำรด                   ทั่วทั้ง
บุตรทารท่านแทนทด           ความชอบ เขานา
สมที่ภักดีตั้ง                           ต่อเหง้าเผ่าเฉลิม
(ร่าย)       เพิ่มบำเหน็จเสร็จไซร้ ธให้เชิญพระอัยการศึก ปรึกษาโทษขุนทัพ สรรพทั้งมวลหมู่มาตย์ ว่าอริราชริปู ยกพยูหเหยียบเขต ประเวศชานเวียงชัย พระบาทไทธทั้งสอง ปองพระศาสน์อำรุง ผดุงชุมชีทวิชาติ ทั่วทวยราษฎร์ประชา ไป่ระอาออกท้อ ข้อลำเค็ญพระองค์ ทรงพระอุตสาหภาพ เสด็จปราบราชอรี ปวงมนตรีนายทัพ สรรพทุกตนทุกตัว กลัวอเรนทร์เหลือล้น พ้นยิ่งพระราชอาชญา ไป่ยาตราพลขันธ์ ทันเสด็จด้าวรณรงค์ มละสารทรงสองเต้า เข้าท่ามกลางปัจนึก ถึงสู้ศึกหัสดี มีชเยศเสร็จสรรพ โทษขุนทัพทั้งมวล ควรประการใดไสร้ โดยระบอบแบบไว้ แต่เบื้องโบราณ รีตนา  ฯลฯ
โคลง๒
๏ ถวายพิพากษาชั้น               ดำรัสโดยเหตุหั้น
แห่งเบื้องบันทึก โทษนา
๏ คำนึงนึกบาปใกล้              วันบัณรสีไซร้
จวบเข้าควรงด หน่อยนา
๏ กำหนดพรุกเพ็ญแท้           พันธนาไว้แล้
ตรุตรึ้งตรากขัง มั่นนา
โคลง ๓
๏ ตั้งแต่ปาฏิบท                     ล่วงอุโบสถเสด็จแล้ว
เร่งสฤษฏ์โทษอย่าแคล้ว       คลาดด้าวดำเนิน บทนา

ถอดคำประพันธ์
สมเด็จพระนเรศวรมีรับสั่งให้สร้างสถูปสวมทับที่พระองค์ทรงทำยุทธหัตถี ณ ตำบลตระพังตรุ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสืบต่อไป  เสร็จ ศึกยุทธหัตถีแล้ว สมเด็จพระนเรศวรโปรดให้เจ้าเมือง มล่วน รวมทั้งควาญช้างกลับ ไปแจ้งข่าวการแพ้สงครามและการสิ้นพระชนม์ของพระมหาอุปราชาแก่พระเจ้าหงสาวดี แล้วพระองค์ก็ยกทัพกลับกรุงศรีอยุธยา ชื่อเสียงของกรุงศรีอยุธยาก็ลือเลื่องไปทั้งแผ่นดิน จากนั้นก็ทรงปรารภเรื่องการพระราชทานความดีความชอบแก่ พระยารามราฆพ ( กลางช้างของพระนเรศวร ) และ ขุนศรีคชคง ( ควาญช้างของพระเอกาทศรถ ) โดยพระราชทานบำเหน็จ เครื่องอุปโภค เงิน ทอง ทาส และเชลยให้แล้วก็พระราชทานบำนาญแก่บุตรภรรยาของ นายมหานุภาพ และ หมื่นภักดีศวร ที่เสียชีวิตในสงครามให้สมกับความดีความชอบและที่มีความภักดีต่อพระองค์ ต่อมาก็ทรงปรึกษาโทษแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จ ไม่ทันตามกฎของพระอัยการศึกว่า ในการที่ข้าศึกยกทัพเข้ามาเหยียบแดนถึงชานพระนคร พระองค์และพระเอกาทศรถทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำนุบำรุงเหล่าสมณพราหมณ์และ ประชาราษฎรมิได้ย่อท้อต่อความยากลำบาก ทรงพระราชอุตสาหะเสด็จออกไปปราบอริราชศัตรู แต่แม่ทัพนายกองทั้งปวงกลับกลัวข้าศึกยิ่งกว่าพระอาญา ไม่พยายามยกไปรบให้ทัน ปล่อยให้ทั้งสองพระองค์ทรงช้างพระที่นั่งฝ่าเข้าไปท่ามกลางข้าศึกตามลำพัง จนถึงได้กระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะ ลูกขุนได้เชิญกฎพระอัยการออกค้นดู เห็นว่าจะได้รับโทษถึงประหารชีวิต แต่เนื่องจากใกล้วัน 15 ค่ำ ( บัณรสี ) จึงทรงพระกรุณางดโทษไว้ก่อน ต่อวันหนึ่งค่ำ (ปาฏิบท) จึงให้ลงโทษประหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น